แม้ว่าอุตสาหกรรมเหล็ก ในปี 2562 ที่ผ่านมา ถือว่าอยู่ในช่วงที่ตลาดไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่นัก เพราะปัญหาเศรษฐกิจจากภายนอกประเทศ ทั้งสงครามการค้า ระหว่างสหรัฐอเมริกา กับ ประเทศจีน และการบริโภคที่ลดลงของโลก ที่ส่งผลต่อการลงทุนในอุตสาหกรรม ทำให้การส่งออกอ่อนตัว นักลงทุนชะลอการลงทุน แต่ยังมีการลงทุนจากภาครัฐ เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ ถนนมอเตอร์เวย์ ช่วยพยุงตลาดของอุตสาหกรรมเหล็ก ให้ยังคงประคองตัวอยู่ได้
ความต้องการใช้เหล็กทรงยาว และเหล็กเส้น อาจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ถึง 14% จากการอนุมัติโครงการก่อสร้างอีกหลากหลายโครงการจากภาครัฐ เช่น รางรถไฟ โครงสร้างทางยกระดับ และหมอนคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งจะช่วยดันให้ราคาเหล็ก มีทิศทางราคาเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
ส่วนความต้องการใช้เหล็กทรงแบน และเหล็กแผ่นรีดร้อน ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในอุตสาหกรรมยานยนต์ และเครื่องจักร รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ไม่เกิน 6% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจโลกจะเริ่มกลับมาดีขึ้น ประกอบกับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของรัฐบาลที่เอื้อประโยชน์บางประการให้กับนักลงทุน รวมทั้ง การย้ายฐานการผลิตกลับมายังประเทศไทยของ Sharp Corporation ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ในปี 2561 และมีการทำการตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไอที อย่างหนักหน่วงในปี 2562 ที่จะส่งผลอย่างชัดเจนต่ออุตสาหกรรมเหล็กในช่วงปี 2563 นี้
แหล่งข้อมูล
- https://www.krungsri.com/bank/getmedia/0ac57bbc-a283-411d-bf12-44996b0be1ca/IO_Steel_180903_TH_EX.aspx
- https://www.prachachat.net/marketing/news-301935
- https://www.prachachat.net/economy/news-369069
- http://www.thansettakij.com/content/233789
- https://www.naewna.com/business/416011